การแก้ไขและปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ

DS-1PL สามารถปรับเปลี่ยนลักษณะการทำงานได้4โหมดคือ:
Motion Detection, Motionless Detection, Direction Detection, และ Museum Mode.
 

พารามิเตอร์ต่างๆของการตรวจจับการเคลื่อนไหว
พื้นที่แต่ละส่วนที่ปรากฏบนจอภาพ ในการปรับแต่งเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวภาพของส่วนนั้น สามารถเปิดปิดได้ซึ่งอิสระต่อกัน ซึ่งปิดในพื้นที่ๆไม่ต้องการตรวจจับและเปิดในพื้นที่ๆต้องการให้ตรวจจับซึ่งแบ่งออกได้ 8 กลุ่ม (A-H) เป็นไปตามการกำหนดค่าต่างๆ

ความต่อเนื่อง(Tracking) เป็นการกำหนดถึงความเร็วต่อเนื่องของวัตถุที่เคลื่อนไหวเพื่อเพิกเฉยต่อการเคลื่อนไหวเล็กน้อย เช่น นกบินหรือแม้แต่แสงสว่างในฉาก 

ขนาด(Size) เป็นการบอกขนาดของเป้าหมายที่จะตรวจจับเพื่อบ่งบอกว่าตัวตรวจจับแยกแยะความแตกต่างระหว่างสิ่งสองสิ่งได้อย่างน่าเชื่อถือ เช่น คนกับสัตว์ต่า+งๆ

ความไว (Sensitivity) เพื่อชดเชยระดับความเข้มของภาพว่ามากหรือน้อย เพื่อรับรองการทำงานในเงื่อนไขของแสงที่หลายหลาก

การตรวจจับความนิ่ง( Motionless Detection)

กฏเกณฑ์ในการตรวจจับความนิ้งของภาพก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกันกับการตรวจจับความเคลื่อนไหวดังข้างต้น

สำหรับการตรวจจับทิศทางการเคลื่อนที่นั้นถูกเตรียมไว้ให้แล้วดังนี้ (A'B, C'D, E'F, G'H).
 

โหมดการแสดงผล
DS-1PL ได้เตรียมการแสดงผลที่หลายหลากเพื่อลดความลำบากและอำนวยความสะดวกในการกำหนดข้อมูลต่างให้เห็นบนจอแสดงผล

โหมดการสร้างร่องรอย (Tracking Mode)ขนาดของวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวด้วยการสร้างประกาย 3 รูปแบบเพื่อความน่าเชื่อถือดังนี้ Normal Trace Mode; Trace/Memory , ซึ่งอนุญาตให้ร่องรอยการเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นมา และ Trace/Flash , ซึ่งจะแสดงร่องรอยด้วยการกระเพื่อมซ็อนทับเป็นการอนุญาติให้ฉากที่สร้างขึ้นมาหลอกนิดๆ

การแสดงผลแบบมืดทึบ (Blackout Mode) เป็นการปล่อยให้จอภาพแสดงสีดำล้วน ยกเว้นในช่วงส่งสัญญาณเตือนภัยเท่านั้นเพื่อลดการดูภาพที่ไม่จำเป็นลง 

การแสดงผงแบบมืดทึบร่วมกับแสดงร่องรอย (Blackout and Trace Modes)  ภายใต้หน้าจอที่เป็นสีดำนั้นจะถูกซ้อนด้วยร่องรอยการเคลื่อนไหวซึ่งแดงว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่หลังฉากซึงง่ายต่อการสังเกตุ 
 

การตั้งค่าในการตรวจจับ

ตัวแสดงผลเป็นพิเศษทางหน้าจอเป็นตัวกำหนดในการตั้งค่าในการตรวจจับในแต่ละการประยุกต์ใช้งาน

จำนวนพิกเซล (Pixel Count) แสดงถึงจำนวนพิกเซลที่กำลังเริ่มมีการผ่าผืนการเคลื่อนไหวว่ามีจำนวนขนาดเท่าไร จำนวนที่เปลี่ยนแปลงขึ่นกับกิจกรรมต่างๆในฉากซึ่งผู้ปฏิบัตการสามารถมองเห็นว่าเป็นกิจจกรรมชนิดไดทำหรือไม่ทำให้เกิดสัญญาณเตือนภัย

ค่าสูงสุดของจำนวนพิกเซล (Peak Pixel Count) เป็นการแสดงค่าสูงสุดในปัจจุบันของพิกเซลที่ผ่าผืนในฉากวีดีเพียงอย่างเดียว และและเมื่อมีค่าใหม่มาแทนที่ค่าดังกล่าวก็จะหายไปเอง คุณสมบัติข้อนี้เองที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดระดับที่จะเปิดในการตรวจจับไป

แสดงจำนวนการเตื่อนภัยด้วยการกำหนดกลุม (Alarm Count by Zone) เป็นการแสงผลต่อเนื่องด้วยการแสงดจำนวนครั้งของการแจ้งภัยและก็กลุมอะไรที่กำลังถูกกระตุ้นอยู่.